สรุปเรื่องเงินเฟ้อ เงินฝืด
Money & Finance

สรุปเรื่องเงินเฟ้อ เงินฝืด มีความแตกต่างกันอย่างไร

ภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดเป็นปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของเรา ทั้งสองภาวะนี้เป็นเหมือนเหรียญสองด้านของระบบเศรษฐกิจ โดยมีลักษณะและผลกระทบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การทำความเข้าใจความหมาย สาเหตุ และผลกระทบของทั้งสองภาวะจะช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือและวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม

เงินเฟ้อ (Inflation)

เงินเฟ้อ คือภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินที่เรามีอยู่มี อำนาจซื้อลดลง เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ เงิน 100 บาทที่เคยซื้อสินค้าได้หลายชิ้น อาจซื้อได้น้อยลงในอนาคต ตัวอย่างเช่น หากปีที่แล้วเราซื้อกาแฟได้ในราคา 50 บาท แต่ปีนี้ราคาขึ้นเป็น 60 บาท นั่นแสดงว่าเกิดเงินเฟ้อขึ้นกับราคากาแฟ

สาเหตุของเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุหลัก ได้แก่:

  1. เงินเฟ้อด้านอุปสงค์ (Demand-Pull Inflation): เกิดจากความต้องการซื้อสินค้าและบริการโดยรวมมีมากกว่าปริมาณสินค้าที่ผลิตได้ เมื่อผู้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการใช้จ่ายมากขึ้น หรือรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่าย ทำให้ความต้องการสินค้ามีสูงขึ้นแต่สินค้ามีจำกัด ผู้ขายจึงสามารถขึ้นราคาได้
  2. เงินเฟ้อด้านอุปทาน (Cost-Push Inflation): เกิดจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อรักษากำไร เช่น ราคาน้ำมัน ค่าวัตถุดิบ หรือค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นและกระทบต่อราคาสินค้าที่ขายให้กับผู้บริโภคในที่สุด
  3. การเพิ่มปริมาณเงินในระบบ: เมื่อธนาคารกลางพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นหรือมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น แต่ปริมาณสินค้าไม่ได้เพิ่มตาม ส่งผลให้ค่าของเงินลดลงและราคาสินค้าสูงขึ้น

ผลกระทบของเงินเฟ้อ

  • ผลดี ในระดับที่เหมาะสม (ประมาณ 1-3%) เงินเฟ้อสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะทำให้ผู้คนอยากใช้จ่ายเงินก่อนที่ราคาจะสูงขึ้น ส่งเสริมให้ธุรกิจลงทุนและผลิตเพิ่มขึ้น
  • ผลเสีย หากเงินเฟ้อสูงเกินไป จะทำให้ ค่าครองชีพสูงขึ้น ประชาชนมีอำนาจซื้อลดลง โดยเฉพาะผู้มีรายได้ประจำและผู้ที่มีเงินออมจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเงินในบัญชีมีมูลค่าที่แท้จริงลดลง นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ธุรกิจอาจต้องลดการผลิตหรือปลดพนักงาน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจซบเซาได้

เงินฝืด (Deflation)

เงินฝืด คือภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินที่เรามีอยู่มี อำนาจซื้อเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง อาจดูเหมือนเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาวะเงินฝืดเป็นสัญญาณอันตรายของเศรษฐกิจที่ซบเซา

สาเหตุของเงินฝืด

สาเหตุหลักของภาวะเงินฝืดคือ:

  1. อุปสงค์ที่ลดลง (Lower Demand): เกิดจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ลดลง ประชาชนกังวลเกี่ยวกับอนาคตและเลือกที่จะออมเงินแทนการใช้จ่าย ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าลดลง เมื่อขายของไม่ได้ ผู้ผลิตจึงต้องลดราคาเพื่อจูงใจให้คนมาซื้อ
  2. อุปทานที่มากเกินไป (Excess Supply): เกิดจากการที่ผู้ผลิตผลิตสินค้ามากเกินความต้องการของตลาด ทำให้สินค้าล้นตลาดและต้องลดราคาลงเพื่อระบายสินค้า
  3. การลดลงของปริมาณเงินในระบบ: เกิดจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดหรือการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบน้อยลง ส่งผลให้ราคาสินค้าลดลง

ผลกระทบของเงินฝืด

แม้จะดูเหมือนดีที่ของถูกลง แต่ภาวะเงินฝืดส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ:

  • วงจรการผลิตที่ซบเซา เมื่อราคาสินค้าลดลง ผู้ผลิตจะได้รับกำไรน้อยลงและอาจประสบภาวะขาดทุน ทำให้ต้องลดการผลิต ลดการลงทุน และอาจถึงขั้นปลดพนักงาน ซึ่งจะส่งผลให้ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
  • วงจรการใช้จ่ายที่ลดลง เมื่อประชาชนเห็นว่าราคาสินค้ากำลังลดลง พวกเขาจะชะลอการใช้จ่ายเพื่อรอให้ราคาถูกลงไปอีก ซึ่งยิ่งทำให้ความต้องการสินค้าลดลงและราคายิ่งตกต่ำลงไปอีก เป็นการสร้างวงจรที่อันตรายและยากที่จะแก้ไข
  • ภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น มูลค่าของหนี้สินที่เป็นตัวเงินจะสูงขึ้นในเชิงเปรียบเทียบกับรายได้ที่ลดลง ทำให้การชำระหนี้เป็นเรื่องยากขึ้น

ตารางสรุปความแตกต่าง

คุณสมบัติ เงินเฟ้อ (Inflation) เงินฝืด (Deflation)
ระดับราคา สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลดลงอย่างต่อเนื่อง
อำนาจซื้อของเงิน ลดลง เพิ่มขึ้น
แรงจูงใจในการใช้จ่าย เพิ่มขึ้น (รีบซื้อก่อนของแพง) ลดลง (ชะลอซื้อรอของถูก)
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจ (ในระดับที่เหมาะสม) ทำให้เศรษฐกิจซบเซา
ผู้ที่ได้เปรียบ ลูกหนี้และนักลงทุน เจ้าหนี้และผู้มีเงินออม
ผู้ที่เสียเปรียบ เจ้าหนี้และผู้มีเงินออม ลูกหนี้และผู้ผลิต
เป้าหมายนโยบาย ลดการใช้จ่ายและปริมาณเงิน กระตุ้นการใช้จ่ายและปริมาณเงิน

ในท้ายที่สุดแล้ว ทั้งเงินเฟ้อและเงินฝืดในระดับที่รุนแรงล้วนเป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ การมี เงินเฟ้อในระดับต่ำและคงที่ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลก เพราะถือเป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนมากนัก