บทความนี้วิเคราะห์ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างประชากรไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลง ชี้ให้เห็นถึงโอกาสและความท้าทาย สำหรับภาคธุรกิจ พร้อมเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค 4 กลุ่มหลัก Gen Z, Millennials, Alpha และ Silver Generation เพื่อเป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ด้วยจำนวนประชากร 71.6 ล้านคน และอายุเฉลี่ย 40.1 ปี สะท้อนถึงโครงสร้างประชากรที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าในปี 2025 ประชากรไทย 25% จะเป็นกลุ่ม Silver Generation (ผู้สูงอายุ) และจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปี 2030 กลุ่ม Silver Generation นี้จะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีบทบาทสำคัญ และมีกำลังซื้อสูง ไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อนหลังเกษียณ แต่คือการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดี ยืนยาว และสนุกสนาน (Health & Longevity Enjoyment) ส่งผลให้สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะได้รับความนิยมมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่ม High and Upper Middle จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลัก ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในไทยและเอเชียแปซิฟิก ดังนั้น การทำความเข้าใจพฤติกรรม และค่านิยมของแต่ละ Generation จึงเป็นสิ่งจำเป็น
เจาะลึก 4 Generations ผู้บริโภคกลุ่มหลัก

Gen Z (เกิดระหว่างปี 2540-2555)
- Lower Commitment: มีความยึดติดกับสิ่งต่างๆ น้อย ทั้งในด้านความสัมพันธ์ การทำงาน และทรัพย์สิน
- Situationship & Casual Relationship: นิยมความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด และใช้การสื่อสารผ่านข้อความ (Text) เป็นหลัก
- Value Instant Gratification: คาดหวังการตอบสนองที่รวดเร็ว ทันใจ ทั้งในเรื่องเงินเดือน และการได้รับการยอมรับ (Recognition) ในที่ทำงาน
- ความกังวลสูง: มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต การเงิน และสภาพสังคม

Gen Millennials (เกิดระหว่างปี 2524-2539)
- ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และคุณค่า: มองหาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย (Value for Money) และให้ความสำคัญกับงานฝีมือ ความทนทาน
- Premiumization: ยินดีจ่ายแพงขึ้น เพื่อสินค้าที่มีคุณภาพ และตรงกับค่านิยมของตน
- ใส่ใจจุดยืนของแบรนด์: ชื่นชอบแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจน สนับสนุนประเด็นทางสังคม เช่น ความยุติธรรม ความเท่าเทียม สิทธิ LGBTQ+ และสิ่งแวดล้อม
- ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability): โดย 75% ของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ระบุว่าความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ และ 62% ชื่นชอบแบรนด์ที่แสดงออกถึงความเชื่อของตนเอง

Gen Alpha (เกิดหลังปี 2553)
- เติบโตมากับเทคโนโลยี: คุ้นเคยกับการใช้งานออนไลน์ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของครอบครัว
- Influencer ตัวน้อย: พ่อแม่มักเชื่อคำแนะนำของลูก ที่ได้ข้อมูลจากโลกออนไลน์ เห็นได้จาก Gen Alpha ที่เป็น Content Creator รีวิว สินค้า เกม และของเล่น บนแพลตฟอร์มต่างๆ
- ไม่มี Brand Loyalty: ยังอยู่ในช่วงวัยที่กำลังสำรวจ และไม่มีความผูกพันกับแบรนด์ใดเป็นพิเศษ
- โอกาสของแบรนด์: หลายแบรนด์เริ่มพัฒนากลุ่มสินค้าสำหรับเด็ก เพื่อดึงดูด Gen Alpha และ Gen Millennials ที่เป็นพ่อแม่

Silver Generation (ผู้สูงอายุ)
- Health & Longevity Enjoyment: ให้ความสำคัญกับสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และยืนยาว
- มีกำลังซื้อสูง: เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าและบริการด้านสุขภาพ ความงาม และการท่องเที่ยว
- ไม่ใช่ผู้สูงวัยติดบ้าน: พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และใช้ชีวิตอย่าง Active
- ต้องการสินค้าและบริการที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และพฤติกรรมของแต่ละ Generation ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจ แบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการ และค่านิยมของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะ Silver Generation ที่มีกำลังซื้อสูง และ Gen Z และ Alpha ที่เป็นผู้บริโภคกลุ่มสำคัญในอนาคต การเข้าใจ Insight ของแต่ละ Generation จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ในปี 2025 และปีต่อๆ ไป